ClocK (นาฬิกา)

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558












                    การเผยแพร่บอกต่อ(โปรโมท) Blog ของตัวเอง

การลิงค์ที่เชื่อมโยงไปมายัง Blog ของเพื่อนๆๆ

1. เมื่อลงชื่อเข้าใช้แล้ว ในรายการ Blog ของเราที่สร้างไว้ ให้คลิกที่หัวข้อรูปแบบ และคลิก เพิ่ม Gadget ให้เพิ่มลงไปตรงส่วนด้านของ Blog
2. จากนั้นคลิก รายชื่อลิงก์
3. ช่องหัวข้อพิมพ์กันว่า รายชื่อ Blog ของเพื่อน
4. หัวข้อ URL ของไซต์ใหม่ ให่ใส่ (URL) ที่อยู่ Blog ของเพื่องลงไป
5. จากนั้นคริกปุ่มเพิ่มลิงค์
6. หากจะใส่ลิงค์ที่อยู่ Blog ของเพื่อนคนต่อไป ให้ทำเช่นเดียวกับข้อ 4 -5 เมื่อทำจนครบจำนวนแล้ว ให้คลิกที่ปุ่มบันทึก
7. จะกลับมาที่หน้าเพิ่มและจัดเรีนงองค์ประกอบของหน้า เราจะเห็นว่าสิ่งที่เพิ่มลงไปอยู่ข้างบนสุดของด้านข้าง ให้ใช้เมาส์คลิกและลากไปใว้ในตะแหน่งที่เหมาะสม และคลิกปุ่มบันทึกอีกครั้ง
8. เสร็จแล้วหากต้องการดูสิ่งที่เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงไปแล้วให้คลิกที่ แสดงตัวอย่าง หรือดู Blog



วิธีการง่ายๆ


1.เปิด Blogger ของเราขึ้นมา
2.ไปที่หน้า แดชบอร์ด
3.เลือก Blogger ที่เราต้องการใส่นาฬิกา
4.คลิกที่ เมนูรูปแบบ
5.คลิกเพิ่ม  Gadget
6.เลือก HTML/จาวาสคริปด์เพิ่ม แล้วคลิก +
7.เปิดหน้าเว็บใหม่ แล้วเข้าเว็บไซต์ www.clocklink.com
8.เลือกหมวดหมู่ของนาฬิกา โดยคลิก Gallery
9.เลือกนาฬิกาที่ีต้องการ โดยคลิกที่ View HTML Tag
10.เลือกโซนเวลาของประเทศไทยคือ ICT Bangkok Time (GTM+07.00)
11.กำหนดขนาดของนาฬิกา
12.จากนั้นคัดลอกโคด HTML 
13.และนำไปวางในส่วนเพิ่ม Gadget  HTML/จาวาสคริปด์เพิ่ม ที่เราเปิดไว้
14.คลิกปุ่ม บันทึก
15.เป็นการเสร็จสิ้น 
16.จากนั้น คลิกที่ดูบล็อก ดูตัวอย่างนาฬิกาที่เราเพิ่มลงไป


เพิ่มป่ายกำกับให้ Blog

วันนี้ได้ทำการปรับเปลี่ยน Blog คือ เพิ่มป่ายกำกับให้กับ Blog คล้ายๆ กับการเขียนความในใจ เป็นการจัด

ทำหมวกหมู่ให้กับบทความที่เราเขียน

1 เข้า Blog
2 คลิกเมนูรูปแบบ
3 เลือก เพิ่ม Gadget
4 เลือก Gadget ป่ายกำกับ
5 ลากไปวางในตำแหน่งที่ต้องการ
6 บันทึกการจัดเรียง

7 ถ้าต้องการดูให้คลิกเลือกที่บล็อก


วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558





วิธีการโปรโมท Blogger ให้เป็นที่รู้จัก

1. google adword -โปรโมทแบบเร็ว แรง แซงทางโค้ง 
เพื่อน ๆที่ทำบล็อกหรือทำ internet marketing คงจะรู้จัก google adword กันเป็นอย่างดีนะครับว่าคืออะำไร? และคงรู้ถึงประสิทธิภาพของมันด้วย วิธีแรกที่ผมแนะนำนี้ เหมาะกับมือใหม่ที่มีกะตังค์(ค่อนข้างเหลือเฟือ) นะครับ เพราะการโปรโมทโดย google adword นี้เราจะต้องจ่ายตังค์ให้ google เพื่อที่จะทำให้บล็อกของเราเป็นที่รู้จักได้รวดเร็วขึ้น 

2. Social Bookmarking - submit เข้าไว้เว็บจะได้ดัง 
กระแส  Social Bookmarking ตอนนี้มาแรงมาก ๆ หรืออย่างที่เพื่อน ๆคุ้นหูในคำว่าเว็บดิกนั่้นแหล่ะครับ ทั้งเว็บนอกเว็บไทย PR สูง ๆ กันทั้งนั้น หลังจากที่เราทำบล็อกเสร็จก็เอาบทความไป submit กับเว็บ bookmark ที่ให้บริการอยู่เยอะแยะ แล้วเราก็จะได้ทั้ง Backlink,traffic เข้าเว็บเราอย่างแน่นอน ปล. อย่าไปสแปมนะครับ เดี๋ยวจะโดนแบนได้

3. Power of  Signature -โหงวเฮ้งไม่เกี่ยวลายเซ็นต์เพียว ๆ ก็เสียว(seo) ได้
 เพื่อน ๆทุกท่านคงจะได้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บบอร์ดหลายๆ แห่งนะครับ  แล้วรู้ไม่ว่าการใส่ลายเซ็นต์ในเว็บบอร์ด ลิงค์มายังเว็บเรานั้น เป็นการโปรโมทที่ได้ผลยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ได้ทั้ง backlink และยังได้โปรโมทเว็บให้เพื่อน ๆ ในบอร์ดเดียวกันได้รู้จักอีกด้วย  รู้แล้วก็อย่าลืมไปใส่ลายเซ็นต์ในบอร์ดที่เราเป็นสมาชิกอยู่นะครับ 

4. Link Exchange - โปรโมทไม่ลำบาก ฝากป้าย(บอกทาง)ไว้บ้านอื่น
 การแลกลิงค์กี่ปี ๆ ก็ไม่มีตกยุค ไม่ว่าจะเป็นแบนเนอร์ (โปรตีน ) หรือเป็น text link ก็ตาม การแลกลิงค์กับเว็บเพื่อนบ้าน ทำให้เราได้รู้จักเพื่อน ๆที่ทำเว็บ  ได้ backlink และได้โปรโมทเว็บเราอีกทางด้วย  ส่วนการแลกลิงค์ที่ดี ก็คือแลกลิงค์กับเว็บที่มีเนื้อหาใกล้เคียงหรือสอดคล้องกับเว็บเรานะครับ จะทำให้โอกาสที่ผู้เข้าชมเว็บหนึ่งจะตามมาเว็บเราจากลิงค์นั้นได้ดียิ่งขึ้น

5. Mr.Answer - อับดุลห์เอ้ย...เอ้ยย...ถามอะไรตอบได้....ตอบได้ 
คนเราไม่ได้รู้ไปทุกอย่าง เพราะฉนั้นจึงเกิดคำถามขึ้นมากมาย การที่เราจะโปรโมทบล็อกด้วยวิธีนี้ ก็ทำได้โดยให้เราไปตอบคำถามที่มีคนถามมา แล้วเราก็ลิงค์กลับมาเว็บของเราเช่น yahoo answer หรือจะตอบคำถามในเว็บบอร์ดหรือในบล็อกต่าง ๆ ก็ได้ครับ ถ้าจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้นเราควรตอบคำถามที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเว็บที่เราทำอยู่ด้วยครับ 

6. Vedio Clib - คลิ๊บหลุด (แรง) ฉุดไม่อยู่ 

สำหรับการโปรโมทเว็บด้วยวิธีนี้อาจจะต้องมีกล้องวีดีโอหน่อยนะครับ (มือถือบางครั้งถ่ายแล้วไม่คมชัดพอ) หรือถ้าเราจะทำวีดีโอลักษณะ tutorial เราก็สามารถใช้ซอร์ฟแวร์อย่าง Camtasia Studio ได้ครับ จากนั้นเราก็นำวีดีโอนั้นไปเผยแพร่ในเว็บวีดีโอต่าง ๆ เช่น youtube.com ที่สำคัญอย่าลืมใส่ url เว็บไซต์ของเราในวีดีโอนั้นด้วยนะครับ 

7. Hi-5,twitter etc.;  - เล่นฮิห้า อย่ามัวแต่ดูรูปสาว ๆ
 กระแสของ hi-5 (ไฮไฟว์) เป็นอะำไรที่ฮอทมาก ๆ ลูกเด็กเล็กแดงตอนนี้ก็แทบจะมี hi-5 เป็นของตัวเองกันทั้งน๊านนน เรียกได้ว่าใครไม่มี hi-5 ถือว่าตกรถไฟอย่างแน่นอน การโปรโมททาง  hi-5 หลักการก็คงคล้าย ๆกับการทำลายเซ็นต์แต่ข้อดีคือ เราสามารถเข้าไปเม้น (Comment ) แสดงความคิดเห็นและฝากเว็บของเราได้ผ่านทางเพื่อน และเพื่อนของเพื่อน ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการโปรโมทในลักษณะเดียวกันนี้อีกเช่น myspace,facebook,twitter เป็นต้น ยังไงก็ลองไปปรับใช้กันดูนะครับ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ของเขาดีจริง ๆ

8 . Share Download file - แบ่งให้เขาแต่เราขอโปรโมท วิธีการโปรโมทเว็บอีกอย่างหนึ่งก็คือการแชร์ไฟล์ให้ดาวน์โหลด ไม่ว่าจะเป็นแชร์ โปรแกรม ไฟล์ต่าง ๆ แต่ต้องระวังเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยนะครับ เช่น เราเอารูป Wallpaper หรือรูปสาว ๆ มาให้ดาวน์โหลด และใส่ url ของเว็บเราในรูปนั้นด้วย ก็จะเป็นการโปรโมทเว็บแบบง่าย ๆ อีกวิธีหนึ่ง ที่ไม่ควรมองข้าม 

9. Bittorrent - พลังแห่งการแบ่งปัน 
สำหรับเว็บบิทนั้นมีสมาชิกที่ไปดูดเลือดเอ้ย...ดูดไฟล์เป็นจำนวนมากเราอาจจะพลิกแพลงใช้ช่องทางนี้ในการโปรโมท ผมยกตัวอย่าง เช่น เราทำบล็อกเกี่ยวกับการตกปลา เราก็ทำวีดีโอการตกปลา หรือทริปที่เราไปตกปลา (ฉลาม) แล้วอัพขึ้นให้ดาวน์โหลดได้ครับ และอย่าลืมใส่ url ของเว็บเราด้วยนะครับ หลักการก็คล้าย ๆ กับการโปรโมทแบบใช้ Vedio นั่นแหล่ะครับ 

10. Friends to any friends - เพื่อน..ผมรักคุณว่ะ 
วิธีสุดท้าย เอามันใกล้ ๆตัวนี่แหล่ะ เมื่อเราทำบล็อกเสร็จก็ ส่งลิงค์ให้เพื่อนซี้เราเลยครับ แล้วบอกมันว่า คุณ add to favorite ด้วยนะ หรือไม่ก็ตั้งเป็น home page ซะเลย (555 เข้าข่ายบังคับ อาจโดนเพื่อนเตะได้) และอย่าลืมบอกด้วยว่ามันคือคนแรกที่ได้รับเกียร์ติให้เข้าชมเว็บนี้ (จริง ๆ ไม่มีคนเข้ามาก่อนอยู่แล้ว ) ถ้าเพื่อนเรามีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องที่เราทำเว็บก็จะเข้าทางเลย และฝากบอกเพื่อนให้แนะนำแบบ  mouth to mouth (ปากต่อปาก) ก็จะดีทีเดียว

จาก  www.thaiseoboard.com/index.php?topic=66368.0;wap2

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การเปลียนรูปโปร์ไฟล์



วิธีการทำคือ

1.ล็อกอินเข้า blog
2.ให้คลิกที่สามเหลี่ยมข้างชื่อของเราดังรูป
3.แล้วให้คลิกเลือกที่คำว่าโปรไฟล์ของบล็อกเกอร์ 
4.เมื่อคลิกแล้วหากว่าเรามีรูปภาพที่เราต้องการเปลี่ยนให้คลิกที่แก้ไขโปร์ไฟล์
5.จากนั้นให้ไปคลิกที่เลือกไฟล์แล้วเลือกรูปที่เราต้องการ
6.เมือเลือกเแล้วก็กดที่open
7.แล้วให้ไปคลิกที่บันทึกโปร์ไฟล์ก็จะได้ตามที่เราต้องการ
8.เสร็จแล้วหากต้องการดูสิ่งที่เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงไปแล้วให้คลิกที่ แสดงตัวอย่างหรือดูบล็อก

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557


การลิงค์ที่เชื่อมโยงไปมายัง Blog ของเพื่อนๆๆ

1. เมื่อลงชื่อเข้าใช้แล้ว ในรายการ Blog ของเราที่สร้างไว้ ให้คลิกที่หัวข้อรูปแบบ และคลิก เพิ่ม Gadget ให้เพิ่มลงไปตรงส่วนด้านของ Blog
2. จากนั้นคลิก รายชื่อลิงก์
3. ช่องหัวข้อพิมพ์กันว่า รายชื่อ Blog ของเพื่อน
4. หัวข้อ URL ของไซต์ใหม่ ให่ใส่ (URL) ที่อยู่ Blog ของเพื่องลงไป
5. จากนั้นคริกปุ่มเพิ่มลิงค์
6. หากจะใส่ลิงค์ที่อยู่ Blog ของเพื่อนคนต่อไป ให้ทำเช่นเดียวกับข้อ 4 -5 เมื่อทำจนครบจำนวนแล้ว ให้คลิกที่ปุ่มบันทึก
7. จะกลับมาที่หน้าเพิ่มและจัดเรีนงองค์ประกอบของหน้า เราจะเห็นว่าสิ่งที่เพิ่มลงไปอยู่ข้างบนสุดของด้านข้าง ให้ใช้เมาส์คลิกและลากไปใว้ในตะแหน่งที่เหมาะสม และคลิกปุ่มบันทึกอีกครั้ง
8. เสร็จแล้วหากต้องการดูสิ่งที่เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงไปแล้วให้คลิกที่ แสดงตัวอย่าง หรือดู Blog


วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วิธีการง่ายๆ





1.เปิด Blogger ของเราขึ้นมา


2.ไปที่หน้า แดชบอร์ด


3.เลือก Blogger ที่เราต้องการใส่นาฬิกา


4.คลิกที่ เมนูรูปแบบ


5.คลิกเพิ่ม  Gadget


6.เลือก HTML/จาวาสคริปด์เพิ่ม แล้วคลิก +


7.เปิดหน้าเว็บใหม่ แล้วเข้าเว็บไซต์ www.clocklink.com


8.เลือกหมวดหมู่ของนาฬิกา โดยคลิก Gallery


9.เลือกนาฬิกาที่ีต้องการ โดยคลิกที่ View HTML Tag


10.เลือกโซนเวลาของประเทศไทยคือ ICT Bangkok Time (GTM+07.00)


11.กำหนดขนาดของนาฬิกา


12.จากนั้นคัดลอกโคด HTML 


13.และนำไปวางในส่วนเพิ่ม Gadget  HTML/จาวาสคริปด์เพิ่ม ที่เราเปิดไว้


14.คลิกปุ่ม บันทึก


15.เป็นการเสร็จสิ้น 


16.จากนั้น คลิกที่ดูบล็อก ดูตัวอย่างนาฬิกาที่เราเพิ่มลงไป



เพิ่มป่ายกำกับให้ Blog
วันนี้ได้ทำการปรับเปลี่ยน Blog คือ เพิ่มป่ายกำกับให้กับ Blog คล้ายๆ กับการเขียนความในใจ เป็นการจัด

ทำหมวกหมู่ให้กับบทความที่เราเขียน

1 เข้า Blog
2 คลิกเมนูรูปแบบ
3 เลือก เพิ่ม Gadget
4 เลือก Gadget ป่ายกำกับ
5 ลากไปวางในตำแหน่งที่ต้องการ
6 บันทึกการจัดเรียง
7 ถ้าต้องการดูให้คลิกเลือกที่บล็อก


วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

นาฬิกาทรายชีวิต
หากผู้อ่านอยากดูหนังหนักๆที่แฝงไปด้วยแง่คิด ทุกฉากและทุกคำพูดในหนังส่งผลต่อชีวิตไม่ด้านก็ด้านหนึ่ง ผู้เขียนขอแนะนำซิรี่ส์เรื่อง 24  ของค่ายทเวนตี้เซนจูรี่ฟ็อกซ์
นัยยะที่ซีรี่ส์เรื่อง 24 แฝงมาให้ผู้ชมได้เสพผ่านการเดินเรื่องแบบ Real Time ทำให้หลายคนหลงรักซีรี่ส์เรื่องนี้และตัวละครผู้รักชาติอย่างแจ็ค บาวเออร์ได้ไม่ยาก
ช่วงซีซั่นแรกๆ ในตอนเริ่มเรื่องจะมีคำพูดของบาวเออร์ (รับบทโดยคีเฟอร์ ซัทเธอร์แลนด์) เกริ่นบอกว่า วันนี้เป็นวันที่ยาวนานที่สุดของชีวิตผม” ซึ่งนั่นหมายถึง 24 ชั่วโมงต่อจากนั้น เขาจะพาผู้ชมเกาะติดไปกับภารกิจหักเหลี่ยมเฉือนคมเพื่อหยุดยั้งผู้ก่อการร้ายที่หมายจะทำลายประเทศชาติและคนที่เขารักให้ทันเวลา
ด้านหนึ่ง ต้องยกความดีความชอบให้กับผู้เขียนบท ที่สามารถสร้างพล็อตที่มีเสน่ห์ในตัวเองแบบนี้ออกมาได้   หลักการง่ายๆที่ซีรี่ส์เรื่องนี้ใช้จนได้รับความนิยมมากที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือเหตุการณ์ 1 วันของบาวเออร์กลับสามารถสร้างได้ 24 ตอน หรือหนึ่งซีซั่นพอดิบพอดี 
อันที่จริงเวลาที่คนเราเหนื่อยมากๆก็ต้องพัก การพักผ่อนหลับนอนเป็นหนึ่งในวัฏจักรของการดำเนินชีวิตอยู่แล้ว เมื่อเอนหลังลงนอนแล้วหลับตา ทุกอย่างก็จบ ชาร์จแบทให้เต็มที่เพื่อรอต่อสู้กับปัญหาของวันใหม่  แต่ถ้าคนๆนั้นยังไม่นอน  หนึ่งวันหรือ 24 ชั่วโมงของคนนั้นก็จะยังไม่จบ ซึ่งนั้นทำให้คำนิยามเรื่องเวลาที่ว่าคนเรามีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากันนั้น เป็นสิ่งที่ใช้ไม่ได้กับคนๆนั้นครับ เพราะเวลาของเขา (ในการจัดการกับปัญหาของเขา) มีมากกว่า 24 ชั่วโมง
ผู้อ่านอาจรู้สึกแย้งในใจว่า ต่อให้เราไม่นอนตลอด 24 ชั่วโมง เวลาของเราก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง แต่ในมุมที่ผู้เขียนจะแชร์เป็นการมองจากมุมของคนที่ต้องทำภารกิจอะไรบางอย่างให้สำเร็จในเวลาที่กำหนดมากกว่าครับ อย่างเช่นได้รับมอบหมายให้ทำโปรเจ็คเสนอผู้ใหญ่ ต้องมีการเตรียมข้อมูลทำเพาเวอร์พ้อยท์อะไรแบบนั้นครับ ซึ่งต้องทำเสร็จภายในเวลาที่ได้รับมา  เมื่อเจอความรู้สึกแบบนี้ ทุกคนก็อยากจะใช้เวลาทุกวินาทีทำให้ดีที่สุดจริงมั้ยครับ
สมัยที่ผู้เขียนยังทำงานเป็นตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทแห่งหนึ่ง ก็มีวันที่ยาวนานเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง กิจกรรมนั้นคือการทำ week ครับ
การทำ week ก็คือการที่ตัวแทนต้องมีเบี้ยประกันมาส่งบริษัทให้ได้ภายในวันศุกร์ของแต่ละสัปดาห์ ซึ่งจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ตัวแทนในบริษัททำงานอย่างมีวินัยเพราะด้วยเส้นตายการส่งงานก็ดี การนัดหมายที่ยากเย็นกับลูกค้าบางคนก็ดี ทำให้ผู้เขียนต้องเก็บเรื่องพักผ่อนเอาไว้ก่อน มุ่งเน้นที่การทำงานให้เสร็จก่อน ซึ่งก็ถูกอาจารย์ตำหนิอยู่ไม่ใช่น้อย นั่นเพราะถ้าเราบริหารเวลาเป็นมืออาชีพมากพอ  ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบที่วิ่งวุ่นแข่งกับเวลาแบบนี้
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า คนและสัตว์มี 4 อย่างที่เหมือนกัน นั่นคือ 1)ความกลัว     2)ความหิว    3)ความง่วง  และ 4)การเสพกาม  ซึ่งทั้ง 4 อย่างนี้เมื่อมันสะสมเรื้อรังถึงสูงสุด ล้วนทำลายพวกเราด้วยกันทั้งสิ้น  เช่น ถ้าคนเราอดอาหารและน้ำหลายๆวัน  แขนขาไร้เรี่ยวแรง เมื่อร่างกายดึงเอาอาหารเก่ามาย่อยจนหมดแล้ว ก็จะเริ่มกัดกร่อนเอาไขมันที่ดีมาใช้หล่อเลี้ยงร่างกายจนที่สุดผ่ายผอมเหลือแต่กระดูก  หากมีอาหารที่คนเพิ่งทิ้งลงไปในถังขยะใหม่ๆ และเราเห็นพอดี  เชื่อเถอะว่าตอนนั้นเราต้องเลือกที่จะกินเพื่อประทังชีวิต แม้ในยามปกติเราไม่เคยมีความคิดจะทำเช่นนั้นก็ตาม
ความง่วงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่บั่นทอนศักยภาพในการทำงาน เพราะขณะที่เราง่วงมากๆ  เราจะไม่มีกะจิตกะใจในการทำงาน  อย่างหน่วย SEAL ที่เป็นหน่วยรบที่ได้รับการยอมรับว่าเก่งที่สุด ก็ยังต้องผ่านสัปดาห์นรก ซึ่งเป็นการฝึกต่อเนื่องแบบไม่หลับไม่นอนเลยตลอด 120 ชั่วโมงด้วยกันทุกคน 
ที่ต้องฝึกเช่นนั้นก็เพื่อให้ร่างกายเคยชินกับการอดนอน เมื่อเจอแรงกดดันจากการรบหรือเจอเหตุการณ์ที่คอขาดบาดตาย จะได้ไม่ตัดสินใจผิดพลาด เพราะสติไม่ถูกความง่วงเข้าครอบงำ
ทุกขณะจิต เราต้องตัดสินใจที่จะชนะกิเลสตนเองไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้งในแต่ละวัน เช่นอยากกินไก่ทอดร้านนั้นจังเลย ทั้งที่เพิ่งทานอาหารกลางวันมื้อหนักมากับเพื่อน หลังจากจิตต่อสู้กับกิเลสอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายเราก็ตัดสินใจซื้อ
แต่ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องผลของงานที่อาจมีใครบางคนเสียประโยชน์เพราะการตัดสินใจ (ที่เห็นแก่ตัว) ของเรา ถ้าเราจิตใจไม่ฝักใฝ่ฝ่ายดีอย่างเข้มแข็ง เช่นคิดว่าเพื่อคนนั้นก็คงโดนตำหนิบ้าง แต่ไม่หนักหนาอะไรหรอก เราก็จะเลือกวิธีที่เราได้ประโยชน์แต่คนอื่นเสียประโยชน์แทน
ส่วนในแง่มุมที่ผู้เขียนได้ก็จะเน้นหนักไปในสองเรื่องนี้เสียเป็นส่วนใหญ่นั่นคือ 1) เรื่องของการบริหารจัดการเวลาและ 2) เรื่องการตัดสินใจในเวลาที่จำกัด
ถ้าจะวัดคุณภาพของงานที่ทำกันจริงๆแล้ว สองสิ่งนี้เกี่ยวพันกันชนิดที่แยกออกจากกันไม่ได้เลยทีเดียวครับ
ถ้าเรามีเวลาจำกัดในการต้องทำบางสิ่งให้สำเร็จ การรู้ว่าต้องทำสิ่งใดก่อนสิ่งใดหลังและลงมือทำตามนั้นให้สำเร็จไปทีละขั้นตอน เรียกว่าทำงานตามลำดับความสำคัญครับ และเมื่อได้ลำดับความสำคัญของงานมาแล้ว ก็ต้องลงมือทำให้สำเร็จตามลำดับภายในเวลาที่กำหนดให้ได้ แล้วทุกอย่างก็จะสำเร็จเองเหมือนที่ผู้บริหารท่านหนึ่งเคยสอนเอาไว้ว่า “ให้สะสมความสำเร็จเล็กๆน้อยในชีวิตเอาไว้เถอะ เมื่อมันมากเข้า มันก็จะกลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้เอง”
ขอจบเอนทรี่นี้ด้วยมุมมองเรื่องเวลาอีกแง่มุมหนึ่ง
ที่โต๊ะทำงานของผู้เขียนจะมีนาฬิกาทรายตั้งอยู่ ไม่ใช่เพื่อความสวยงาม แต่ตั้งเอาไว้เป็นเครื่องคอยเตือนสติว่า เมื่อทรายหล่นลงมาข้างล่างมากขึ้นเท่าไหร่ ทรายข้างบนก็เหลือน้อยลงเท่านั้น เวลาในชีวิตของเรามากขึ้นเท่าไหร่ เวลาของพ่อแม่ที่เรารักก็เหลือน้อยลงเท่านั้น ในวันนี้เราได้ทำสิ่งใดตอบแทนความรักที่ท่านมีต่อเราแล้วหรือยัง?
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแม่ หากลูกคนไหนยังไม่ได้วางแผนที่จะกลับไปหาท่าน ก็ควรเริ่มวางแผนการเดินทางได้แล้ว
เวลา 24 ชั่วโมงในแต่ละวันที่เราต่อสู้ดิ้นรนห้ำหั่นกับหน้าที่การงาน ด้วยหวังว่าความก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่เราได้รับ จะส่งผลเป็นความสุขให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ห่างไกลเราด้วย ผู้เขียนของบอกว่าแท้จริงแล้วสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีความสุขใดจะมีค่าเท่ากับการที่ลูกๆ กอดและหอมแก้มท่านพร้อมบอกกับพวกท่านว่าคุณผู้อ่านรักพวกท่านมากแค่ไหนอีกแล้ว
นั่นเพราะ 24 ชั่วโมงของคนที่คิดถึง ช่วงเวลาจะยาวนานกว่า 24 ชั่วโมงของคนที่ถูกคิดถึงมากมายครับ
ในทุกๆ 24 ชั่วโมงต่อจากนี้
ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขกับการทำให้คนที่รักคุณหายคิดถึงนะครับ
...แมวเหมียวสิบชีวิต...